ราชกิจจานุเบกษาประกาศรายละเอียดของมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพครูตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 และ หลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู พ.ศ. 2563
ดร. วัฒนาพร ระงับทุกข์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 137 ตอนพิเศษ 109 ง ได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่อง รายละเอียดของมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพครูตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 และ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู พ.ศ. 2563 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่อง รายละเอียดของมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพครูตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562
คุรุสภา ได้แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. 2556 ในส่วนของมาตรฐานวิชาชีพครู ด้านมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ และมาตรฐานการปฏิบัติงาน เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงและทิศทางการศึกษาของชาติ โดยออกเป็น “ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562” ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2562 เป็นต้นมา
คณะกรรมการคุรุสภาได้ออกประกาศคณะกรรมการคุรุสภาดังกล่าว เพื่อกำหนดรายละเอียดของมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพครูตามข้อบังคับดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย สาระความรู้ และสมรรถนะตามมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพครู ทั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาให้การรับรองปริญญา และประกาศนียบัตรทางการศึกษา เพื่อการประกอบวิชาชีพครู ของสถาบันต่าง ๆ ที่เสนอให้คุรุสภารับรอง ตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 เป็นต้นไป รวมทั้งใช้เป็นกรอบในการดำเนินการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู เพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 ซึ่งกำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ต้องผ่านการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด โดยมีผลบังคับใช้กับผู้เข้ารับการศึกษาในหลักสูตรปริญญา และประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครูที่คุรุสภารับรอง ตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 เป็นต้นไป
ประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู พ.ศ. 2563
โดยที่เป็นการสมควรให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและประเมินสมรรถนะ ทางวิชาชีพครู ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกลไกและระบบการคัดกรองผู้ประกอบวิชาชีพครูให้ได้ผู้มีจิตวิญญาณของความเป็นครู และมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานวิชาชีพครูที่คุรุสภากำหนด
คุรุสภาจึงออกข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ พ.ศ. 2559 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูใหม่ โดยกำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ต้องผ่านการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด โดยยกเว้น ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากปริญญา หรือประกาศนียบัตรทางการศึกษาที่คุรุสภารับรองที่เข้าศึกษาก่อนปีการศึกษา 2562 และผู้ได้สิทธิในการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูก่อนข้อบังคับนี้มีผลใช้บังคับ (ผู้ผ่านการรับรองความรู้ฯ และมีใบอนุญาตปฏิบัติการสอนอยู่ระหว่างทำคุณสมบัติด้านประสบการณ์ วิชาชีพครู 1 ปี ภายในวันที่ 3 ตุลาคม 2563)
โดยคณะกรรมการคุรุสภา ในการประชุมครั้งที่ 6/2563 เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2562 และครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 ได้มีมติเห็นชอบแนวทาง การดำเนินการทดสอบฯ และการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ออกเป็น “ประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู พ.ศ. 2563” ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563
สาระสำคัญโดยย่อของประกาศฯ
1. กำหนดองค์ประกอบของการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาขีพครู ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่
1.1 ความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ซึ่งจะดำเนินการโดยวิธีทดสอบ รวม 5 รายวิชา ได้แก่
(1) วิชาภาษาและเทคโนโลยีดิจิทัล ประกอบด้วย
1) การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
2) การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
3) การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา
(2) วิชาชีพครู
(3) วิชาเอก ตามที่คณะอนุกรรมการกำหนด
1.2 การปฏิบัติงานและการปฏิบัติตน ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ซึ่งจะดำเนินการโดยวิธีการประเมิน ตามเครื่องมือประเมินที่คุรุสภากำหนด ในด้านต่าง ๆ ได้แก่
(1) การจัดการเรียนรู้
(2) ความสัมพันธ์กับผู้ปกครองและชุมชน
(3) การปฏิบัติหน้าที่ครู และจรรยาบรรณของวิชาชีพ
2. กำหนดคุณสมบัติของผู้เข้ารับการทดสอบและประเมินฯ จำแนกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
2.1 ผู้ศึกษาในหลักสูตรปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่า ที่คุรุสภารับรอง ประกอบด้วย
(1) ผู้มีคุณวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่าที่คุรุสภารับรอง หรือ
(2) ผู้อยู่ระหว่างศึกษาในหลักสูตรปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่า ที่คุรุสภารับรอง ตามหลักเกณฑ์คุณสมบัติที่คณะอนุกรรมการกำหนด
2.2 ผู้มีคุณวุฒิปริญญาอื่น ที่คุรุสภารับรอง และมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
(1) ผ่านการรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพครูที่คุรุสภากำหนด หรือ
(2) ผ่านการรับรองคุณวุฒิการศึกษาเพื่อการประกอบวิชาชีพครู
3. กำหนดให้มีคณะอนุกรรมการอำนวยการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูเพื่อขรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย แนวทาง และรายละเอียดของหลักเกณฑ์
และวิธีการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู อำนวยการและดำเนินการตามนโยบาย แนวทาง และ รายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบฯ กำกับ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินการทดสอบฯ รายงานผลการดำเนินงานต่อคณะกรรมการคุรุสภา รวมถึงดำเนินการอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการคุรุสภามอบหมาย
4. กำหนดอัตราค่าสมัครเข้ารับการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูด้านความรู้ฯ ตามประกาศฯ สำหรับชาวไทย วิชาละ 300 บาท และสำหรับชาวต่างประเทศ วิชาละ 500 บาท
5. กำหนดระยะเวลาในการใช้ผลการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู กรณีเป็นการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูด้านความรู้ฯ กำหนดใช้ผลการทดสอบและประเมินที่ผ่านเกณฑ์ ในวิชานั้น ๆ เพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้ภายใน 3 ปี นับตั้งแต่วันประกาศผลการทดสอบฯ หากพ้นกำหนดดังกล่าว ต้องเข้าทดสอบใหม่ และกรณีการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูด้านการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตน สามารถใช้ผลการทดสอบและประเมินฯ ได้โดยไม่จำกัดระยะเวลา
การเตรียมดำเนินการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2563
คณะอนุกรรมการอำนวยการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ในการประชุม ครั้งที่ 2/2562 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2562 มีมติให้ดำเนินการจัดการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ปี พ.ศ. 2563 ในเดือนตุลาคม 2563 โดยมีกลุ่มเป้าหมายในการทดสอบฯ ได้แก่ นิสิตนักศึกษาที่เข้าศึกษาในหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา ปีการศึกษา 2562 ในหลักสูตรปริญญาโททางการศึกษา (วิชาชีพครู) และประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู ที่คุรุสภารับรอง ซึ่งสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้สำรวจข้อมูลนักศึกษาในหลักสูตรดังกล่าวแล้วพบว่า มีประมาณ 7,800 คน
การดำเนินการจัดการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูด้านความรู้ฯ สำนักงานเลขาธิการ คุรุสภาได้ประสานความร่วมมือกับสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เพื่อดำเนินการสร้างข้อสอบฯ ตามผังการสร้างข้อสอบฯที่คณะอนุกรรมการอำนวยการทดสอบฯให้ความเห็นชอบ และจะดำเนินการจัดการทดสอบฯ ในเดือนตุลาคม 2563 ณ ศูนย์ทดสอบที่กำหนด โดยกระจายในภูมิภาคต่าง ๆ รวม 9 ศูนย์ ทั้งนี้ รายละเอียดเกี่ยวกับการจัดการทดสอบฯ เมื่อผ่านความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการอำนวยการทดสอบฯ และคณะกรรมการคุรุสภาเรียบร้อยแล้ว จะได้ประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยเร็วต่อไป รวมทั้ง การเตรียมความพร้อมในเรื่องการจัดการทดสอบฯ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) ยังคงต้อง คงมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดตามมติคณะรัฐมนตรี สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะได้หารือร่วมกับสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ เพื่อเตรียมดำเนินการจัดการทดสอบตามสถานการณ์ดังกล่าวต่อไป.
ประกาศคณะกรรมการคุรุสภาเรื่อง รายละเอียดของมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพครูตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562
หลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูประกาศคณะกรรมการคุรุสภาเรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู พ.ศ. 2563
ที่มา : http://www.ksp.or.th/ksp2018/2020/06/19628/